ชื่อของภาพยนตร์คือ “The Look of Silence” (2014) ฆาตกรเผยกาย, ในสังคมที่ผู้คนต่างหวาดกลัวจนไม่กล้าเปิดปากพูด น้องชายของเหยื่อจากเหตุฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในอินโดนีเซียช่วงยุค 60 ค้นพบตัวตนฆาตกรที่ฆ่าพี่ชายและตัดสินใจเผชิญหน้ากับพวกเขา คะแนน: 8.3, ผู้กำกับ: Joshua Oppenheimer
ณ เวลาในอดีตที่สุดสายตาสงัดออกสู่เรื่องราวที่เข้ามาด้วยความเปิดเผยที่รุนแรง เรื่องราวของ “The Look of Silence” กำลังจะเปิดเผย…
ในยุคที่ความสงบสุขของชุมชนในอินโดนีเซียถูกต้องเข้ามาทำร้ายด้วยเหตุการณ์เลวร้าย น้องชายผู้กล้าหาญของผู้เสียหายที่ถูกฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ กำลังค้นหาความจริงเบื้องหลังที่เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของพี่ชายแห่งตน เขาตัดสินใจที่จะเผชิญหน้ากับฆาตกรและสานต่อเส้นทางความจริงที่อาจสามารถเปลี่ยนแปลงชุมชนได้ ตามหาความยากลำบากและอันตราย เขาเผชิญหน้ากับอุปสรรคทางจิตใจเมื่อต้องเปิดเผยความจริงและสานฝันให้กับความหวาดกลัวของชุมชน จะเกิดขึ้นในที่สุด? หรือจะมีค่ามากพอที่จะเสียใจในเส้นทางที่เลือกไป?
เมื่อตามติดรายละเอียดของเรื่องราวนี้ในหนัง “The Look of Silence” เราจะได้พบกับความเข้มข้นและความเปรียบเสมือนของเหตุการณ์ ผู้ชมจะถูกนำเข้าสู่การตามล่าความจริงพร้อมกับน้องชายผู้กล้าหาญ ที่ตัดสินใจที่จะเผชิญหน้ากับความเป็นจริงที่หลอกลวงอยู่ในที่สุด ความรุนแรงของเหตุการณ์และความสับสนของชุมชนจะถูกสื่อให้เห็นอย่างชัดเจนผ่านการกลับกลายของเรื่องราวนี้
เส้นเรื่องจะนำเราสู่ความลึกลับของปัญหาทางสังคมและจิตวิญญาณของบุคคลที่ท้าทายอยู่ในเหตุการณ์นี้ พวกเราจะรู้สึกถึงความเข้มข้นของความหวาดกลัว ความมั่นคงในตัวเองของน้องชาย และความหวาดกลัวที่อาจมีผลกระทบที่ไม่คาดคิดต่อชุมชนและเมื่อสิ้นสุดลง เราจะถือความจริงและความกล้าหาญนี้ไว้ในใจเสมอ
ด้วยคำแนะนำที่ดีและการกำกับของ Joshua Oppenheimer ภาพยนตร์ “The Look of Silence” กลายเป็นการสะท้อนความทรงจำและความคิดเห็นที่สำคัญต่อประวัติศาสตร์และสังคม คำอธิบายที่เป็นเรื่องราวนี้จะเป็นการเพิ่มความเข้าใจให้กับผู้ชมที่สนใจภาพยนตร์ที่มีความหมายลึกซึ้งและการต่อสู้เพื่อความยุติธรรมในโลกที่ยังความเป็นธรรมไม่เพียงพอ